Category: เลือกซื้อของไอที

หลอดไฟเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้แสงสว่างในยามค่ำคืน หรือแม้แต่ในเวลากลางวันเราก็ใช้หลอดไฟเพื่อให้ความสว่างเช่นกัน โดยเฉพาะบริเวณไหนที่มืดทึบหรือแสงสว่างส่องไม่ถึง หลอดไฟจะมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากที่ช่วยให้บริเวณนั้นสว่างไสวเหมือนได้รับแสงจากภายนอก แต่จะเลือกอย่างไรให้เหมาะนั้นคุณสามารถพิจารณาในเรื่องต่างๆ ได้ดังต่อไปนี้ 1. เลือกจากระดับความสว่างที่เราต้องการ โดยสามารถดูได้จากค่า ลูเมน (lm) หรือก็คือหน่วยที่ใช้วัดกำลังความสว่างหรือปริมาณแสงของหลอดไฟดวงนั้นนั่นเอง 2. เลือกโทนสีให้เหมาะสม สำหรับโทนสีจะแบ่งออกได้เป็น 3 แบบ ได้แก่ – สีวอร์มไวท์ (Warm white) จะออกแสงสีแดงโทนส้ม โทนสีร้อนและอบอุ่น – สีคูลไวท์ (Cool white) ออกแสงสีขาว โทนสีดูเย็นสบายตา ค่อนข้างสว่างเมื่อเทียบกับสีวอร์มไวท์ – สีเดย์ไลท์ (Day light) ออกแสงโทนขาวอมฟ้า คล้ายแสงธรรมชาติในเวลากลางวัน 3. เลือกจากขั้วหลอด ถ้าเป็นการติดตั้งใหม่ก็อาจจะไม่ต้องคำนึงถึงตรงนี้ แต่ถ้าเป็นการซื้อไปเปลี่ยนของเดิมก็ต้องดูว่าเป็นแบบไหน เช่น ขั้วเกลียว, ขั้วเกลียวเล็ก, ขั้วเข็ม และ ขั้วเสียบ เป็นต้น 4. เลือกจากอายุการใช้งาน ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกแบบอายุการใช้งานยาวนาน เพราะจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนกันบ่อยๆ 5. ราคา ดูที่เหมาะสมไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป …

บ้านเราส่วนใหญ่อาการจะร้อนถึงร้อนจัด ดังนั้นเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ที่ช่วยให้อากาศเย็นขึ้นจึงจัดเป็นสิ่งจำเป็น และด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ถ้าเราจะเปิดแอร์กันทั้งวันทั้งคืนในช่วงอากาศร้อนก็คงไม่ไหวแน่ๆ เพราะค่าไฟในแต่ละเดือนคงแพงไม่ธรรมดากันเลยทีเดียว ดังนั้นพัดลมจึงเป็นอีกทางเลือกที่สามารถช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดี แต่จะเลือกอย่างไรนั้นวันนี้เรามีคำตอบมาฝาก 1. เลือกแบบมีมาตรฐานความปลอดภัย เพราะจะเป็นพัดลมที่ทดสอบแล้วว่าสามารถนำมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย และยังใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าทำให้เราประหยัดไฟไปด้วย 2. เลือกให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน เช่น ถ้าใช้แค่คนเดียวก็เลือกแบบตั้งโต๊ะก็พอ แต่ถ้าใช้พร้อมๆ กันหลายคนและเป็นห้องกว้างก็ควรเป็นแบบตั้งพื้นหรือพัดลมเพดาน เป็นต้น 3. เลือกแบบที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่าแล้วยังช่วยประหยัดค่ากระแสไฟฟ้า 4. เลือกพัดลมแบบตั้งโต๊ะหรือตั้งพื้นแทนการเลือกใช้พัดลมเพดาน เพราะนอกจากจะสามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้สะดวกแล้ว พัดลมแบบตั้งโต๊ะและตั้งพื้นยังประหยัดค่าไฟได้มากกว่าพัดลมเพดานถึง 50% เลยทีเดียว 5. เลือกแบบเปิดปิดธรรมดาดีกว่าใช้รีโมทคอนโทรล อะไรที่มีเทคโนโลยีหรือฟังชั่นมากขึ้น นั่นก็หมายความว่าเสียค่าไฟเพิ่มขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน ที่สำคัญถ้าเกิดเสียขึ้นมายังเปลืองค่าใช้จ่ายในการซ่อมมากกว่าอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาพัดลมกันสักตัวลองเลือกตามคำแนะนำด้านบน รับรองได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวัง

ปกติเรามักจะมีกระติกน้ำร้อนไว้เสียบน้ำร้อนสำหรับชงเครื่องดื่มต่างๆ แทนการใช้กาต้มน้ำอย่างในสมัยก่อน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วกระติกน้ำร้อนที่วางจำหน่ายในปัจจุบันจะมีกำลังไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ตามขนาดบรรจุอยู่ระหว่าง 500-1,000 วัตต์ และจะมีขนาดความจุตั้งแต่ 2 ลิตรขึ้นไป ในการต้มน้ำแต่ละครั้งจะใช้กระแสไฟฟ้าประมาณ 500-600 วัตต์ สำหรับการเลือกซื้อนั่นเราสามารถทำได้ดังนี้ 1. เลือกแบบที่ผลิตได้มาตรฐานหรือก็คือควรมีสัญลักษณ์ มอก. ที่ตัวผลิตภัณฑ์ เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่ากาต้มน้ำร้อนหรือสินค้าชนิดนั้นๆ ผลิตได้อย่างมาตรฐานและปลอดภัยเชื่อถือได้ 2. คำนึงถึงการใช้งาน เช่น ถ้าไว้สำหรับชงเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ แค่วันละไม่กี่แก้ว ดื่มกันเพียงไม่กี่คน ต้มแล้วก็ถอดปลั๊กออก ก็เลือกใช้กระติกน้ำร้อนขนาดเล็กที่มีความจุไม่มาก็เพียงพอต่อการใช้งานกันแล้ว แต่ถ้าเป็นสำนักงานที่มีพนักงานหลายคนก็ควรเลือกแบบแบบความจุเยอะขึ้นมาหน่อยตามจำนวนความต้องการใช้ในแต่ละวัน เพราะจะได้ไม่ต้องต้มน้ำกันบ่อยๆ ให้เปลืองไฟฟ้า 3. เลือกซื้อกระติกน้ำแบบเคลือบเทฟรอน เพราะแบบที่เป็นโลหะเปล่าๆ เมื่อใช้ไปนานๆ สารโลหะจะหลุดออกมาหรือเกิดเป็นตะกอนได้ แต่ก็ใช่ว่าเทฟรอนจะดีเสมอไป ซึ่งถ้าเราปล่อยให้อุณหภูมิในกระติกน้ำร้อนสูงเกิน 360 องศา ก็อาจจะทำให้สารเทฟรอนกลายเป็นไอพิษออกมาได้เช่นกัน ดังนั้นควรใช้อย่างระมัดระวัง 4. มีบริการหลังการขาย และมีศูนย์บริการในการซ่อมถ้าเครื่องเกิดมีปัญหา เพียงเท่านี้คุณก็มีกระติกน้ำร้อนแบบที่ต้องการไว้ใช้งานกันได้แล้ว

สำหรับคอกาแฟการได้จิบกาแฟสักถ้วยในทุกๆ วัน จะมีส่วนในการช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย ซึ่งการจะดื่มกาแฟแก้วโปรดบางครั้งนอกจากจะเลือกดื่มจากร้านประจำแล้ว เราก็อาจจะชงดื่มกันเองไม่ที่บ้านก็ที่ทำงาน เพราะจะได้ไม่ต้องดั้นด้นไปซื้อกาแฟให้เสียเวลา และนี่เองทำให้เครื่องชงกาแฟกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายคนเลือกซื้อมาเก็บไว้ แล้วจะเลือกอย่างไรให้เหมาะสำหรับตัวเราเองนั่น คุณสามารถพิจารณาในเรื่องต่างๆ ได้ดังนี้ 1. เครื่องชงกาแฟแบบหยด จะเป็นแบบที่ค่อนข้างได้รับความนิยม เพราะคุณสามารถทำกาแฟสดดื่มเองได้ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน มีให้เลือกได้ตั้งแต่ 4-12 ถ้วย/ครั้ง กันเลยทีเดียว เวลาชงแต่ละครั้งรับรองได้เลยว่ากลิ่นหอมโชยเตะจมูกเกินห้ามใจ 2. เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ เครื่องแบบนี้ก็ได้รับความนิยมพอสมควรเช่นเดียวกัน สามารถเลือกซื้อมาประกอบการค้าหรือชงเองที่บ้าน ตัวเครื่องจะมีโปรแกรมในการตั้งค่าวิธีการชงแบบต่างๆ เพียงแค่กดเลือกเมนูคุณก็จะได้กาแฟในแบบที่ต้องการ สะดวกและรวดเร็วสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคอกาแฟได้อย่างลงตัว 3. เครื่องชงกาแฟแบบพกพา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางเป็นประจำ จะมีขนาดเล็กกะทัดรัดแต่สามารถชงกาแฟได้ไม่แพ้เครื่องแบบอื่น การใช้งานก็แสนง่ายเพียงแค่เติมน้ำร้อนและผงกกาแฟลงไป กดตัวปั้มแค่นี้คุณก็จะได้กาแฟหอมกรุ่นถูกใจกันแล้ว เมื่อทราบกันแบบนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะเลือกเครื่องชงกาแฟให้ถูกใจและตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว

เตาอบไมโครเวฟดูเหมือนจะกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความจำเป็นสำหรับคนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็วในการทำอาหาร เพราะสามารถให้ความร้อนได้เร็วทำให้คุณทำอาหารเสร็จเร็วกว่าการประกอบอาหารแบบเดิมๆ หรือแม้แต่การอุ่นอาหารแบบง่ายก็ร้อนทันใจ แต่การเลือกซื้อเตาอบไมโครเวฟซักเครื่องควรจะพิจารณาเรื่องใดบ้างนั่นเรามาดูกันดีกว่า 1. ขนาด ควรเลือกให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้งานและสมาชิกในครอบครัว เตาอบไมโคเวฟที่มีขนาดเล็กก็จะมีความจุน้อยกว่าและใช้พลังงานน้อยแบบที่มีขนาดใหญ่ แต่ถ้าคุณเลือกแบบที่มีความจุใกล้เคียงกันก็ควรดูที่กำลังไฟที่ต้องใช้ เลือกแบบที่ประหยัดไฟกว่าเป็นใช้ได้ 2. เลือกจากวัสดุที่ใช้ในการผลิต วัสดุต้องมีความแข็งแรงทนทาน สามารถทนความร้อนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้การผลิตต้องได้มาตรฐานโดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัย และต้องทำความสะอาดได้ง่าย 3. รูปทรง ควรเลือกที่มีขนาดกะทัดรัด ควรพิจารณาจากสถานที่ตั้ง ถ้าจะให้สวยควรเลือกแบบที่ดีไซน์เข้ากับสภาพแวดล้อมหรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในห้องครัวของเรากันด้วย 4. เลือกจากฟังชั่นการใช้งาน ให้ดูว่าในแต่ละวันเราต้องการปรุงอาหารในลักษณะไหนมากที่สุดหรือทำบ่อยๆ ก็ให้เลือกเตาอบไมโครเวฟที่มีฟังชั่นอย่างที่เราต้องการ 5. มีบริการหลังการขาย และการรับประกันสินค้า หลังจากการใช้งานแล้วก็อย่าลมดูแลรักษา หรือตรวจเช็คระบบในเรื่องต่างๆ กันอยู่เสมอ เพื่อให้คุณสามารถใช้เตาอบไมโครเวฟได้อย่างปลอดภัย การบำรุงรักษายังมีส่วนในการช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น

น้ำผลไม้มีประโยชน์หลายอย่างต่อสุขภาพร่างกาย นอกจากจะช่วยให้คุณมีสุขภาพดีแล้วยังช่วยในเรื่องของผิวพรรณและความสวยความงามกันอีกด้วย ที่สำคัญยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ทำให้ในช่วงหลังๆ หลายคนหันมาสนใจเครื่องปั่นน้ำผลไม้กันมากขึ้น และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาเครื่องปั่นน้ำผลไม้เรามาดูวิธีในการเลือกซื้อให้เหมาะกันดีกว่า 1. ต้องสะดวกต่อการใช้งาน รูปร่างกะทัดรัดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป น้ำหนักก็ไม่ควรมากหรือก็คือหยิบจับถนัดมือ ถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย สำหรับขนาดอาจจะเลือกตามความเหมาะสมหรือการปั่นในแต่ละครั้งรับประทานกันกี่คน ก็ให้เลือกปริมาณตามความต้องกจะได้ไม่เสียเวลาปั่นกันหลายรอบ 2. กำลังในการปั่นต้องเพียงพอต่อปริมาณที่ต้องการปั่น ถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาพนักงานขายก่อนทำการเลือกซื้อ 3. ทำจากวัสดุที่คงทนแข็งแรง ตัวโถปั่นถ้าจะให้ดีควรทำมาจากพลาสติกเกรดดี ใบมีดต้องทำมาจาก สแตนเลสที่แข็งแรงและไม่เป็นสนิม แต่ก็ต้องทราบกันด้วยว่าถ้าทำมาจากวัสดุที่ได้มาตรฐานราคาก็จะสูงตามไปด้วย แต่ถ้าเป็นของที่ราคาถูกลงหน่อยคุณสภาพและอายุการใช้งานก็จะน้อยลงไปด้วยเช่นกัน 4. มีใบรับประกันหลังการขาย และมีคู่มือวิธีการใช้ ที่สำคัญควรศึกษาวิธีการใช้ในคู่มือให้ละเอียด และใช้อย่างถูกต้อง เพียงเท่านี้คุณก็สามารถใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ได้อย่างปลอดภัยและดื่มน้ำผลไม้ที่อร่อยดีต่อสุขภาพกันได้แล้ว

เครื่องดูดควันส่วนใหญ่เราจะเลือกติดตั้งเพื่อช่วยดูดควันและกำจัดกลิ่นของอาหารให้หายไปไม่รบกวนหรือตลบอลอวลไปทั่วบ้าน ซึ่งการเลือกอันดับแรกเราต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก โดยดูว่าปกติในแต่ละวันเราใช้งานครัวมากน้อยขนาดไหน และออกแบบครัวแบบไหน ดังนั้นถ้าคุณกำลังคิดที่จะเลือกซื้อเครื่องดูดควัน สิ่งที่ควรพิจารณาจะมีดังนี้ 1. ถ้าคุณใช้ครัวเป็นประจำหรือเกือบตลอดทั้งวัน ควรเลือกเครื่องดูดควันที่เป็นระบบระบายควันออกสู่ภายนอก จะเป็นการใช้แรงพัดลมดูดอากาศออกไปตามท่อสู่ภายนอกอาคาร ระบบนี้จะมีราคาไม่แพง แต่สามารถช่วยขจัดควันและกลิ่นได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าใช้งานไม่บ่อยอาจเลือกระบบอากาศหมุนเวียนภายในห้อง โดยระบบนี้จะใช้ฟิลเตอร์คาร์บอนกรองควัน กรองไอน้ำมันและกลิ่นในอากาศแล้วปล่อยกลับสู่ภายในห้อง ซึ่งจะสามารถช่วยกำจัดควันและกลิ่นได้ระดับหนึ่ง 2. ควรเลือกเครื่องดูดควันที่มีความกว้างพอเหมาะกับเตา หรือก็คือเลือกจากขนาดของเตานั่นเอง 3. เลือกวัสดุที่ได้มาตรฐานปัจจุบันจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ – . สเตนเลส เป็นวัสดุที่ทนทานไม่เป็นสนิมง่าย ทำความสะอาดง่าย – เหล็กเคลือบสี มีหลากหลายสีสันให้เลือก แต่สีจะถูกกัดกร่อนได้ง่าย – กระจกลามิเนต ทนทาน ทำความสะอาดง่าย ดังนั้นอันดับแรกต้องดูว่าเราใช้ครัวในการประกอบอาหารมากน้อยแค่ไหน และมีงบประมาณเพียงใด จากนั้นก็พิจารณาเลือกตามความเหมาะสมกันได้เลย

เครื่องปิ้งขนมปังช่วยเปลี่ยนขนมปังปอนด์ธรรมดาให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังช่วยให้ขนมปังหอมกรุ่นและอร่อยมากกว่าเดิม ทำให้ไม่ต้องแปลกใจกันเลยว่าหลายคนถึงชอบทานขนมปังปิ้งกัน แต่ครั้นจะมายืนปิ้งกับเตาไฟก็คงไม่สะดวกนัก ไม่เหมือนกับการใช้เครื่องปิ้งขนมปังที่ช่วยประหยัดเวลาและสะดวกมากกว่า เพียงใส่ขนมปังลงไปในช่องวางขนมปังแล้วกดปุ่มเพียงไม่ถึงนาทีคุณก็จะได้ขนมปังปิ้งแสนอร่อยกันแล้ว สำหรับการเลือกนั่นสามารถทำได้ดังต่อไปนี้ 1. เครื่องปิ้งขนมปังที่ดีต้องมีแผ่นความร้อนที่สามารถให้ความร้อนได้อย่างทั่วถึง เพื่อให้ขนมปังได้รับความร้อนทั่วทั้งแผ่น 2. ต้องทำความสะอาดได้ง่าย เพราะรับรองได้เลยว่าต้องมีเศษขนมปังตกหล่นลงไปอย่างแน่นอน เครื่องปิ้งขนมปังในปัจจุบันด้านล่างจะมีถาดสำหรับรองเศษขนมปัง ดังนั้นอย่าลืมดูแล้วเลือกแบบมีถาดลองกันด้วย นอกจากนี้บริเวณด้านบนถ้าเป็นไปได้ควรเลือกแบบที่มีที่ครอบช่องปิ้ง เพื่อป้องกันแมลงต่างๆ เข้าไปในบริเวณนั้น 3. ถ้ามีงบประมาณมากหน่อยให้เลือกแบบที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ เผื่อให้คุณสามารถเลือกระดับการปิ้งขนมปังให้กรอบหรือนุ่มได้ตามความต้องการ 4. วัสดุที่ใช้ต้องมีความแข็งแรงทนทาน อย่าลืมดูในเรื่องของดีไซน์กันด้วย ดูให้เหมาะกับอุปกรณ์อื่นภายในครัวหรือเลือกดีไซด์ตามความชอบ เมื่อเลือกได้แล้วก็อย่าลืมศึกษาวิธีการใช้ และใช้ให้ถูกวิธี และตรวจสอบสภาพให้สมบูรณ์อยู่เสมอ เพื่อให้คุณสามารถใช้เครื่องปิ้งขนมปังได้อย่างปลอดภัย

เตาไฟฟ้าค่อนข้างได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะปลอดภัยมากกว่าการใช้เตาประเภทอื่น โดยเฉพาะถ้าที่พักอาศัยเป็นคอนโด อพาร์ทเม้นท์ หรือ หอพัก แต่สำหรับบ้านก็ถือว่าเหมาะเช่นกันโดยเฉพาะถ้ามีข้อจำกัดในเรื่องของเปลวไฟ ที่สำคัญเตาไฟฟ้ายังมีดีไซน์การออกแบบที่สวยงาม จัดตั้งง่ายไม่เปลืองเนื้อที่ เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ในห้องครัวได้อย่างลงตัว และถ้าเราต้องการเลือกเตาไฟฟ้าไว้ใช้ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงจะมีดังนี้ 1. เตาไฟฟ้าที่เลือกซื้อต้องได้มาตรฐาน โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยและความทนทาน โดยดูได้จากใบรับรองต่างๆ ซึ่งถ้าเราเลือกซื้อของที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่มีคุณภาพอาจจะเกิดอันตรายได้ในระหว่างการใช้งาน 2. วัสดุที่ผลิตต้องแข็งแรงทนทาน ไม่แตกหักหรือเปราะได้ง่าย 3. เตาไฟฟ้าที่ใช้ต้องมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะจากความร้อนและการเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร 4. เลือกให้เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง เช่น ควรเป็นสถานที่อากาศถ่ายเทสะดวก ห่างไกลจากวัสดุที่ติดไฟได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าคุณเลือกติดตั้งในคอนโด หรือหอพัก ที่มีความกว้างไม่มากต้องระวังเป็นพิเศษ 5. เตาไฟฟ้าที่เลือกซื้อควรมีใบรับประกันสินค้า มีบริการหลังขาย และคู่มือการใช้งานอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน ที่สำคัญอย่าลืมศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้เข้าใจโดยเฉพาะวิธีการใช้ก่อนการใช้จริงจะช่วยในเรื่องของความปอลดภัยได้เป็นอย่างดี เมื่อเลือกได้แล้วก็อย่าลืมศึกษารายละเอียดในเรื่องของการบำรุงรักษากันด้วย เพื่อให้เตาไฟฟ้าที่ใช้ปลอดภัยทั้งกับตัวคุณเองและคนทีคุณรัก

ปัจจุบันเทคโนโลยีช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราง่ายขึ้น โดยเกิดสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ เข้ามาตลอด และหุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่สำคัญยังถือเป็นผู้ช่วยในการทำความสะอาดบ้านสำหรับแม่บ้านพ่อบ้านยุคใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลามากนักได้เป็นอย่างดี จึงจัดได้ว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเป็นสิ่งที่ช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี แต่ก็อย่าลืมเลือกให้เหมาะกันด้วย ซึ่งเราควรพิจารณารายละเอียดในเรื่องต่างๆ ดังนี้ 1. ความจุกล่องเก็บฝุ่น แต่ละรุ่นจะมีความจุที่แตกต่างกัน ความจุยิ่งมากยิ่งดี เพราะเราจะได้ไม่ต้องเทฝุ่นออกบ่อยๆ 2. แบตเตอรี่ ควรมีระยะเวลาพอเพียงต่อการใช้งานแต่ละครั้งหรือประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นอย่างต่ำ 3. แปรงปัดฝุ่น จะมีให้เลือกหลายแบบขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ให้ดูว่าเราต้องการกำจัดอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ อย่างเช่น ขนหมาหรือแมว เป็นต้น 4. ระเบบเซนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเซนเซอร์กันตกจากที่สูง ตรวจจับขยะ หรือ ป้องกันการกระแทก ก็เลือกได้ตามความต้องการ 5. ระบบฟิลเตอร์ ที่ช่วยกรองฝุ่นที่ดูดเข้าไม่ไม่ให้ฟุ้งกระจายออกมา 6. โหมดการทำงาน จะมีหลายฟังชั่นให้สามารถเลือกใช้งานได้ไม่ว่าจะเป็น การทำงานอัตโนมัติ, การกำจัดขยะเฉพาะจุด, การทำงานแบบซิกซัก, การกำจัดฝุ่นตามมุมห้อง และ โหมดคำนวณพื้นที่ภายในห้อง ซึ่งถ้าฟังชั่นมากก็จะมีราคาสูงตามไปด้วย นอกจากนี้คุณอาจจะนึกไม่ถึงว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นยังมีฟังชั่นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ตารางการทำงานอัตโนมัติ กล้องวงจรปิด และ ระบบถูพื้นในตัว เป็นต้น …